Wednesday, December 28, 2016

วันที่ 5 ในอัฐมวารพระคริสตสมภพ

เชิญอ่าน พระวาจาประจำวัน 

"การพบปะกับพระเจ้า"
พระเจ้าทรงพบปะกับเราไม่ใช่ในความรู้ความเข้าใจเท่านั้น แต่ในความเชื่อและประสบการณ์ชีวิต คิดว่ารักคิดว่ารู้จักพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าเราพบพระเจ้าแล้ว แต่นักบุญยอห์นในบทจดหมายของท่านสอนเราว่า อาศัยการปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระเจ้า จะทำให้เรารู้จักและอยู่ในพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ "ถ้าเราปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์" ใครไม่ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ก็เป็นคนพูดคำเท็จ อยู่ในความมืดและตาบอด(ข้อ11)

เราสรุปรวมบทบัญญัติของพระเจ้าว่าพระบัญญัติแห่งความรักซึ่งเป็นทั้งบทบัญญัติเก่าและใหม่ เก่าเพราะเป็นถ้อยคำที่สืบทอดต่อมาในธรรมประเพณีของพระศาสนจักร ใหม่เพราะว่าพระเยซูเจ้าได้แสดงให้เห็นในความตายและกางเขนของพระองค์ว่าผู้ที่ได้รับเรียกจากพระเจ้าทุกคนจะต้องเดินในหนทางแห่งความรักนี้ รักที่ยอมมอบแม้ชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย ซึ่งเขาต้องเลือกด้วยใจอิสระไม่ใช่เพราะเป็นข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามด้วยความจำใจ

พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาในพระวิหารท่ามกลางผู้คนที่คราคร่ำ บรรดาสมณะก็ยุ่งอยู่กับการประกอบพิธีกรรมจนไม่ได้สังเกต พระแม่มารีย์และนักบุญยอแซฟเป็นผู้ที่นำให้พระผู้ไถ่ได้เป็นที่รับรู้ของมนุษย์ด้วยการทำตามธรรมประเพณีของชาวยิว "การถวายบุตรคนแรกแด่พระเจ้า " ทั้งสองได้นำของประเสริฐที่พระเจ้าได้ประทานให้กลับมาถวายแด่พระองค์ เราอาจจะถวายสิ่งดีดีในชีวิตแด่พระเจ้าได้เช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าการไปที่วัดร่วมในพิธีบูชาขอบพระคุณเป็นการไปถวายสิ่งล้ำค่าที่เรามีที่เราได้รับมาจากพระเจ้าเพื่อโมทนาขอบคุณพระองค์

พระคริสตเจ้ามักจะพบกับเราอย่างเงียบสงบ ในวันนี้พระองค์เสด็จมาในสภาพของเด็กแรกเกิดตัวน้อยๆ แสนบริสุทธิ์ ในโอกาสต่อๆ ไป พระองค์อาจจะมาในฐานะเพื่อนที่มาเคาะประตูรอคอยการเปิดต้อนรับ ในตอนเย็นๆ พระองค์อาจจะประทับอยู่บนกางเขนให้เรารำพึงถึง พระองค์อาจจะมาอีกในสภาพอันรุ่งโรจน์ เราอาจจะสัมผัสพระองค์แต่เมื่อเราจำพระองค์ได้พระองค์อาจจะจากไปก็เป็นได้ 

ให้เราเป็นเหมือนผู้เฒ่าซีเมโอนที่หวังและรอคอยที่จะพบกับองค์พระคริสตเจ้าในชีวิตของเรา...และเรารู้แล้วว่าจะพบและอยู่ในพระองค์ได้อย่างไร